วันนี้พิมจะมาพาเพื่อนๆ ไปกินอาหารแนว Shabu & Grill กันที่ร้านอาหารเปิดใหม่บนเดอะมอลล์บางกะปิ ที่ชื่อร้าน Nobuo กันค่ะ
หมายเหตุ :: ภาพทั้งหมด ถ่ายด้วยกล้องของ Tablet นะคะ อาจจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่ก็ดีกว่าไม่มีภาพเน๊าะ
(เช้าวันที่ไปกิน Nobuo ขอบอกว่าทั้งท้องฟ้าทั้งพื้นดินพื้นถนน ชุ่มชื้นไปหมดเลย เพราะว่าฝนตกหนักมากอ่ะค่ะ :: ภาพนี้เป็นบริเวณหน้าปากซอยบ้านพิมค่ะ)
..... จริง ๆ เนี่ยจะว่าไป แต่แรกเริ่มเดิมทีพิมไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปกินอะไรที่ร้านนี้เลยนะคะ คือจริง ๆ ก็ไม่รู้ซะด้วยซ้ำค่ะว่ามีร้านนี้อยู่ที่เดอะมอลล์ แต่วันนั้นตื่นมาตอนเช้ามีธุระจะต้องออกไปข้างนอกที่เดอะมอลล์บางกะปิกะคุณสามีพอดี ด้วยความที่หิวมากๆ และไม่อยากกินร้านอาหารเดิมๆ ก็เลยลองเดินเล่น ๆ ไปรอบ ๆ ในเดอะมอลล์ เพื่อจะหาร้านอาหารใหม่ ๆ ที่พิมยังไม่เคยไปกิน และที่ดูแล้วถูกชะตา .... ก็ปรากฎว่าไปเจอร้านนี้ที่ชั้น 3 ของเดอะมอลล์อ่ะค่ะ
จริง ๆ ตอนแรกที่เห็นร้านนี้เพียงด้านนอก พิมก็ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปนะคะ คือ แอบคิดว่ามันจะต้องแพงแน่ ๆ อ่ะ เพราะดูป้ายที่เค้าเขียนไว้ว่า Nubuo by Nobu ก็เลยคิดว่าราคามันจะต้องใกล้เคียงกับ Nobu ที่เป็นบุฟเฟท์หัวละ 600 กว่า ๆ แน่เลยอ่ะ (หน้าร้าน 499 บ. แต่รวม vat รวม sc แล้วก็ 600 กว่าๆ) ก็เลยคิดว่าคงจะไม่เข้าไปล่ะค่ะ เนื่องจากว่าวันนี้ไม่มีอารมณ์อยากจะกินอะไรที่ราคาสูงๆ
.... แต่นะคะ สงสัยทางร้านเค้าจะรู้ค่ะว่าวันนี้พิมไม่มีอารมณ์อยากจะกินอะไรแพงๆ (ฮ่ะๆ) ก็เลยเอากระดาษ A4 แผ่นนึงมาแปะไว้บนกระจกที่หน้าร้าน แล้วก็มีป้ายโฆษณาอันใหญ่ ๆ อีกป้ายเขียนว่า จาก 399- วันนี้ลดเหลือ 322- บาท net ..... เท่านั้นแหละค่ะ พิมก็เลยตัดสินใจล่ะว่า จะลองกินที่ร้านนี้ดูสักหน่อยก็ได้ (ฮ่ะๆ เห็นแก่ของราคาถูกกว่าจริงเลยเรา)
ป.ล. จริง ๆ ที่ทางร้านเค้าลดราคา พิมคิดว่าเป็นเพราะผลจากข่าวเรื่องรังสีในอาหารญี่ปุ่นมากกว่าน่ะค่ะ คนกินก็เลยอาจจะกังวลเรื่องนี้ อีกทั้งเป็นช่วงเปิดร้านใหม่ หากขายราคาสูง ๆ แต่แรก โดยไม่มีโปรอะไรให้คนไปทดลองก่อนเลยเนี่ยก็ อาจจะทำให้ไม่มีคนกล้าเข้าไปกินก็ได้นะคะ
ตอนที่พิมไปที่ร้านเนี่ย เป็นเวลาที่ห้างเพิ่งเปิดได้ไม่นานเองค่ะ คือ ราว ๆ 11 โมง แถมข้างนอกห้างฝนก็ตกหนักมาก ลมก็แรง (แล้วเรามาถึงห้างได้ไงเนี่ย >_<") ทำให้ร้าน Nobuo ยังไม่มีลูกค้าเลยสักคนค่ะ .... แถมพนักงานก็ยังเดินไปเดินมาเหมือนจัดร้านยังไม่เสร็จ ป้ายที่บอกว่าเปิดร้านแล้ว ก็ยังไม่ได้เอามาแปะ ... พิมก็เลยแอบงง ๆ ว่าเอ๊ะ ตกลงเค้าเปิดร้านแล้วหรือยังเนี่ย ก็เลยเดินไปถามพนักงานเค้าค่ะ ซึ่งเค้าก็บอกว่าเปิดแล้วอ่ะ พิมก็เลยคิดว่า โอเค...ถ้าเปิดร้านแล้วงั้นก็ลุยเลยค่ะ
แต่สงสัยด้วยความที่พนักงาน (เฉพาะคนนั้น คนที่พิมถามเค้าทีแรก) เค้าค่อนข้างเป็นกันเองกับลูกค้ามาก (หรือเฉพาะกับพิมและคุณสามีก็ไม่รู้) เค้าก็ไม่ค่อยได้มาสนใจอะไรค่ะ พิมก็เดินเข้าร้านไปแล้วก็เลือก ๆ ที่นั่งเอาตามที่พิมชอบล่ะค่ะ (เลือกได้ทั้งร้านเลย เพราะว่าเข้าไปเป็นคนแรก) .... สบายใจพิมล่ะ ซึ่งต้องขอบอกเพื่อน ๆ นิดค่ะว่า หากเพื่อน ๆ ไปที่นี่แล้วชอบ zone สว่างๆ ไม่อึมครึม ให้เลือกนั่งส่วนหน้า ๆ ที่ติดกับกระจกนะคะ แต่ถ้าใครที่ชอบแสงสว่างแบบกลาง ๆ ไม่ต้องสว่างมากให้เลือกนั่งกลางร้านค่ะ แต่ถ้าใครชอบแบบมุมเงียบ ๆ อึมครึมหน่อย หลบสายตาผู้คน พิมแนะนำส่วนด้านในสุดของร้านที่อยู่ด้านหลังเคาเตอร์เครื่องดื่ม แบบว่ามันเงียบและมึดจริง ๆ ค่ะ >_<" ซึ่งสำหรับพิม .. ชอบสว่าง ๆ หน่อย ก็ขอเลือกโต๊ะนี้แล้วกันค่ะ (โต๊ะที่สองขวามือ จากทางเข้าอ่ะ)
ซึ่งบนโต๊ะแต่ละโต๊ะของร้าน Nobuo เนี่ย เค้าก็จะมีช่องเตาไว้สำหรับวางหม้อต้มทั้งหมด 6 ช่องด้วยกันค่ะ (หมายความว่าโต๊ะนึงรับได้สูงสุด 6 คนนะคะ 1 คน ต่อ 1 หม้อ) และถ้าหากใครอยากกินแบบ Grill ด้วย เตากริลล์เค้าก็จะวางบนพื้นที่ว่างระหว่างช่่องเตาที่เห็นอยู่บนโต๊ะนั่นแหละค่ะ
ป.ล. จุดด้อยที่สำคัญมากอย่างนึงของร้านนี้ก็คือ ระยะความสูงจากเก้าอี้นั่งถึงขอบโต๊ะด้านล่างค่ะ แบบว่าน้อยมาก เพราะนั้นคนที่อ้วน มีพุงเยอะๆ หรือคนที่ขาใหญ่มาก ขอบอกว่า....ลุก นั่ง เข้า ออก ลำบากพอควรเลยค่ะ เพราะว่าขามันจะติดแนบชิดกับโต๊ะ ถ้าลุกหรือเขยิบไว ๆ หน้าขาด้านบนจะเสียดสีกับโต๊ะ อาจจะทำให้เจ็บขาได้ค่ะ
และตามธรรมเนียมนะคะ เมื่อเราเข้าไปนั่งที่โต๊ะ พนักงานในร้านเค้าก็จะเอาชุดถ้วยจาน ช้อน และตะเกียบ พร้อมกระดาษรองจานมาให้เราแบบนี้อ่ะค่ะ ... แล้วเค้าก็จะถามเราว่า เราจะเลือกกินแบบไหน คือ ร้านนี้เค้าเป็นแบบ Shabu & Grill นะคะ ใครจะเลือกกินแบบชาบูเฉย ๆ ไม่เอาเตากริลล์ก็ได้ค่ะ ก็จะราคาถูกกว่าแบบกินสองอย่างหน่อยนึง แต่สำหรับพิมไหน ๆ มาแล้วครั้งแรก ขอลองทั้งสองอย่างเลยล่ะกันนะคะ
จากนั้นพิมกับคุณสามี ก็เริ่มเดินไปตระเวนชมทั่วร้านล่ะค่ะ ... ซึ่งร้าน Nobuo เนี่ย เค้าจะจัดวางอาหารไว้เป็นจุด ๆ ไปนะคะ ไม่ได้อยู่รวมกันจุดเดียวทั้งหมดเหมือนพวก Hotpot, shabushi, Momo เราอยากได้อะไรก็จะต้องเดินไปหยิบมาเองอ่ะค่ะ (แต่สามารถให้น้องพนักงานเค้าช่วยหยิบให้ในบางอย่างก็ได้ค่ะ)
สำหรับอาหารกินเล่น และพวกของกินหนักๆ ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นข้าวผัด ยากิโซบะ ซุป พวกนี้ จะจัดวางไว้ที่โต๊ะหรือเคาเตอร์ใกล้ ๆ ทางเข้าหน้าร้านค่ะ (เข้าใจว่าเพื่อให้คนอยู่นอกร้านเห็น แล้วรู้สึกว่า อืมมม น่ากินจัง น่าเข้ามากินไรงี้อ่ะค่ะ)
ด
ซึ่งสำหรับอาหารกินเล่นของร้าน Nobuo ในวันที่พิมไปกินนี่ ก็จะมีหนวดปลาหมึกชุบแป้งทอด มีซูชิแบบต่างๆ อย่างในภาพด้านล่าง
และก็มีปลาไข่ชุบแป้งทอด มีเนื้อปลาอะไรสักอย่างคลุกแป้งทอดแล้วผัดกับซอสสามรสอ่ะค่ะ
ส่วนพวกของหนักก็จะมีข้าวผัดกระเทียม ยากิโซบะ ข้าวสวย ซุปมิโซะ และก็ท้องปลาแซลมอนต้มซีอิ๊วนะคะ
ถัดจากโซนอาหารกินเล่นและของหนัก ๆ ก็จะเป็นโซนขนมหวาน สลัด ผลไม้ค่ะ
จาก Zone ผลไม้ ใกล้ ๆ กันก็จะเป็นตู้แช่อาหารสดในแบบชาบู ซึ่งที่ตู้แช่นี้ก็จะมีพวกเนื้อสัตว์หลากหลายชนิด ผัก เส้นแบบต่าง ๆ รวมไปถึงไข่ไก่ไว้ด้วยอ่ะค่ะ
โดยอาหารสดของที่นี่เนี่ย .... เค้าจะแบ่งบรรจุใส่กล่องพลาสติคใส ๆ เอาไว้กล่องละไม่เยอะมาก ใครอยากได้อะไร กล่องไหน ก็เลือกหยิบเอาตามใจชอบเลยนะคะ
ซึ่งพิมว่าการจัดบรรจุแบบนี้ ทำให้อาหารดูสะอาดดี เสียอย่างเดียวพิมว่ากล่องที่เป็นเนื้อสัตว์แต่ละกล่อง .... ปริมาณมันน้อยไปนิดนึงอ่ะค่ะ แบบว่ากล่องนึงมีแค่สองชิ้นเท่านั้นเองอ่ะ ทำให้ต้องหยิบมาทีละหลายกล่อง จนกล่องเปล่าวางเต็มโต๊ะเลยอ่ะค่ะ >_<" (แต่น้องพนักงานเค้าก็มาทยอยเก็บไปเรื่อย ๆ นะคะ)
ถัดจากโซนตู้ของสดสำหรับชาบูมาไกลหน่อย (ค่อนมาทางหน้าร้าน) ก็จะเป็นตู้ของสดเนื้อสัตว์สำหรับ Grill อ่ะค่ะ ซึ่งชนิดเนื้อสัตว์ในตู้ Grill กับ Shabu นี่เหมือนกันนะคะ ต่างแค่ความหนาเท่านั้นเองค่ะ (Grill จะหนากว่า Shabu) ... ซึ่งหากใครอยากกินอันไหน อยากได้อันไหน ก็หยิบได้ตามใจชอบเลยค่ะ แต่ที่สำคัญเอาไปแต่พอกินนะคะ เพราะหากหยิบไปแล้วกินไม่หมด แม้จะยังไม่ได้เปิดฝา ทางร้านเค้าปรับกล่องละ 100 อ่ะค่ะ
ส่วนนี่ก็เป็นโซนน้ำจิ้มต่าง ๆ นะคะ มีทั้งน้ำจิ้มแบบ Shabu น้ำจิ้มสำหรับเนื้อย่าง น้ำจิ้มแบบญี่ปุ่น แบบเกาหลี และอีกมากมาย ใครชอบอะไรอย่างไหนก็เลือกตักเอาตามใจชอบได้เลยค่ะ
ซึ่งสำหรับพิม วันที่ไปแม้จะไปแบบหิวมาก.ก.ก..ก แต่เอาเข้าจริงก็หยิบของกินมาไม่เยอะค่ะ .. จะว่าไปสำหรับสองคน.....พิมกับคุณสามี หยิบเนื้อสัตว์มายังไม่ถึง 10 กล่องเลยค่ะ ส่วนผักก็ 2 กล่องและเส้นอีก 1 กล่อง เรียกว่าหยิบมาน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับเงิน 644 บาที่เสียไป >_<"
แต่แอบมีเรื่องขำ ๆ เกี่ยวกับน้ำจิ้มนิดนึงที่อยากเล่าให้ฟังค่ะ .... ก็พิมกะคุณสามีน่ะต่างแยกย้ายกันไปตักอาหารหยิบอาหารที่ตัวเองชอบ ทีนี้พอกลับมาถึงที่โต๊ะก็มีน้ำจิ้ม 4 ถ้วยวางอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้วค่ะ (เหมือนกัน 2 ถ้วย อีก 2 ถ้วย ไม่รู้น้ำจิ้มอะไร) ในใจพิมตอนนั้นเห็นแล้วก็แอบงง นึกว่าคุณสามีเค้าตักมาให้ (คือปกติไปกินที่ไหน พิมตักน้ำจิ้มให้เค้าตลอด) แต่ก็ไม่ได้พูดไม่ได้ถามอะไร คิดว่าเค้าคงอยากตักอ่ะค่ะ ส่วนคุณสามีพิมเค้าก็คิดว่าพิมตักให้เค้าเหมือนกันค่ะ ก็เลยไม่ได้ถามอะไรพิม ... จนกระทั่งพอกินไปสักพัก พิมก็รู้สึกว่า เอ๊ยย ทำไมน้ำจิ้มถึงมีพริกมากมายขนาดนี้เนี่ย ก็เลยถามคุณสามีไปค่ะว่า ทำไมเค้าตักพริกใส่ในน้ำจิ้มให้พิมเยอะจัง ปรากฎว่าเค้าก็ทำหน้างงค่ะ และก็ตอบพิมกลับมาว่า เค้าก็กำลังสงสัยอยู่เลยว่าทำไมพิมตักพริกใส่น้ำจิ้มให้เค้าเยอะจัง คือ ต่างคนต่างสงสัยน่ะค่ะ และก็สรุปว่าเราสองคนไม่ได้เป็นคนตักน้ำจิ้มเลย แต่น้องพนักงานคนนึงเค้าตักมาให้เราเรียบร้อยเลยค่ะ แถมใส่พริก กระเทียม ผักชี ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวอะไรมาให้พร้อม ..... ซึ่งแม้จะไม่ถูกปาก เพราะพริกกับมะนาวเยอะไป แต่ก็ต้องขอบใจน้องเค้าอ่ะค่ะ ที่ใส่ใจเราแม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้ ^^
จากเรื่องน้ำจิ้ม ก็ขอมาพูดถึงรสชาติอาหารกันบ้างนะคะ .... สำหรับชาบูกับกริลล์ พิมว่าโอเคค่ะ ไม่ผิดหวังอ่ะ (แต่ก็ไม่ได้อร่อยอะไรจนทำให้ติดใจ) แต่สำหรับพวกของกินเล่นอย่างในภาพด้านล่างนี้ และของกินหนัก ๆ พิมถือว่าในระดับราคาเท่านี้ มาตรฐาน Nobu นี้ .... ไม่โอเคเลยอ่ะค่ะ โดยเฉพาะหนวดปลาหมึกชุบแป้งทอดนี่ ตามปกติควรจะนุ่มและกรอบใช่ไหมค่ะ แต่นี่ทั้งเหนียวและแป้งแข็งเลยค่ะ กินคำแรกแล้วไม่อยากจะกินที่เหลือต่ออีกเลย .... ข้าวผัดกระเทียมก็ข้าวแหยะเละแฉะมาก ๆ ไม่มีกลิ่นหอมไม่มีรสของกระเทียมเลยแม้แต่น้อย ..... ซุปมิโซะที่หน้าตาแอบดูดีก็เค็มมาก ๆ จนพิมซึ่งปกติเป็นคนกินเค็มอยู่แล้ว ก็ยังต้องขอบ่น ..... ท้องปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว ท้องปลามันมาก แต่น้ำซีอิ๊วหวานมาก รวมกันแล้วก็ออกไปในทางเลี่ยน .... ส่วนปลาทอดผัดซอสอะไรสักอย่าง อันนี้รสชาติโอเคค่ะ ไม่แย่อ่ะ แต่ก็ไม่ได้อร่อยมากมายจนชวนให้ต้องไปตักกินอีก
แต่ที่พิมคิดว่าอร่อยจริง ๆ ก็คือ ซูชิพวกนี้ค่ะ โดยเฉพาะซูชิกลม ๆ ที่มีหน้าเป็นปลาคัตซึโอะแห้ง หอมและอร่อยจนทำให้ต้องไปหยิบมากินอีกค่ะ ^^
ส่วนของหวานร้านนี้ ... ไม่อยากจะเรียกว่าของหวานเลยค่ะ เพราะมันไม่อร่อยและดูไม่มีคุณค่าราคาเลยอ่ะ เพราะตอนแรกที่ดูผ่าน ๆ ก่อนจะหยิบ พิมนึกว่ารสชาติมันจะดีกว่านี้นะคะ แต่ปรากฎว่าพอหยิบมาที่โต๊ะ เปิดถ้วยดูแล้ว อืมม..ม มันก็เป็นอย่างที่เห็นในภาพนี่อ่ะค่ะ ก็จะมีวุ้นหั่นชิ้นเล็ก 7-8 ขิ้น กับสับปะรดชิ้นเล็ก ๆ 3 ชิ้น แช่มาในน้ำเชื่อมที่มีกลิ่นและรสคล้ายน้ำสับปะรด ... ซึ่งรสชาติก็ออกแนวหวานจืด ๆ ค่ะ ไม่มีกลิ่นหอม ไม่ทำให้รู้สึกอยากกินเลยแม้แต่น้อย .... ซึ่งถ้าจะว่ากันจริง ๆ ก็อยากจะบอกว่า ที่นี่เป็นร้านอาหารร้านแรกสไตล์ปิ้งๆ ย่างๆ เลยนะคะ ที่พิมคิดว่าขนมหวานไม่ได้เรื่องเลยอ่ะค่ะ >_<"
คือสรุปว่าโดยรวม ๆ ก็ไม่ค่อยโอเคนะคะ แค่พอไหว ... ถ้าถามพิมว่ารู้สึกมันคุ้มไหม ก็อยากจะตอบว่า รู้สึกไม่คุ้มเลยอ่ะค่ะ แม้จะในราคาที่ลดแล้วเหลือ 322 บาทก็ตาม ......... ก็ยังไงเอามาไว้เป็นข้อมูลทางเลือกให้คนที่อยากลองไปทานดูนะคะ ^^
......... ส่วนนี้ แถม ๆๆ ค่ะ ...........
ด้วยความที่เซ็งกับ Nobuo มากหน่อย หลังจากกินเสร็จประมาณบ่ายโมงกว่าๆ ก็เลยไปเดินเรื่อยเปื่อยเล่นกับคุณสามีในเดอะมอลล์แหละค่ะ คุณสามีพิมเค้าชอบตุ๊กตาตัวใหญ่ ๆ มาก ไปเห็นเจ้าตัวนี้ในแผนก Gift Shop ก็เลยขอให้พิมถ่ายรูปเค้ากะหมีตัวนี้หน่อยอ่ะค่ะ ประหนึ่งว่าเจอเพื่อนที่จากกันมานาน ฮ่ะๆ
ป.ล. หมีตัวนี้เห็นอย่างนี้ สภาพอย่างนี้ ขอบอกว่าไม่ถูกเลยนะคะ ตัวละตั้ง 14,000 บาทอ่ะ >_<"
และก็ในวันเดียวกันนั่นแหละค่ะ หลังจากจัดการกับธุระปะปังเสร็จเรียบร้อย กลับถึงบ้านเอาตอนดึก ๆ ประมาณ 5 ทุ่มกว่าเราสองคนก็เกิดอาการหิวค่ะ ไม่รู้จะกินอะไรยังไงดี ไม่ได้ซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้านเลยด้วย แถมกับข้าวที่ทำสต๊อกไว้ในตู้เย็นก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว ครั้นจะสั่ง KFC, Mc รึก็ไม่อยากเสียเงิน ก็เลยจัดการไปเปิดตู้เย็น รื้อ ๆ ค้น ๆ ดูว่าพอจะมีอะไรเอาออกมาทำกินในตอนนี้ได้บ้าง ... แล้วไม่รู้ยังไงค่ะ หลังจากไปขลุกอยู่ในครัวประมาณ 1 ชม. ก็ได้ออกมาเป็นเจ้า 2 ชามนี้แหละ "โซบะเกี๊ยวหมูกับลูกชิ้นกุ้งทอด" สูตรเร่งด่วน ที่สามารถทำทั้งหมดเสร็จภายใน 1 ชม. แถมอร่อยมากๆ เลยค่า ไว้วันหลังจะมารีวิววิธีการทำให้ดูนะคะ ^^
ป.ล. ภาพข้างบนมื้อดึกของคืนก่อน ส่วนภาพข้างล่างนี่มื้อเช้าของวัดถัดมาจ้า
:: สรุปตามความรู้สึกส่วนตัวของพิม (คนเดียวเลย) ::
สไตล์ :: ชาบูและปิ้งๆ ย่างๆ
ราคา :: Shabu & Grill 399 บาท ส่วนถ้าเป็น Shabu อย่างเดียวนี่รู้สึกว่าจะ 300 นิด ๆ อ่ะค่ะ (รวม vat กับ service charge แล้ว)
รสชาติของอาหารโดยรวม :: ไม่ค่อยประทับใจพิมสักเท่าไหร่ พิมให้ 7 เต็ม 10
คุณภาพของเนื้อสัตว์ ผัก อื่นๆ ต่อราคา :: 8 เต็ม 10
ความหลากหลายของชนิดอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่ม :: ถ้าเป็นประเภทอาหารคาว ค่อนข้างมีให้เลือกเยอะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมูส่วนต่าง ๆ เนื้อวัวส่วนต่าง ๆ เนื้อไก่ หมัก ไม่หมัก เครื่องในหมู ผัก เส้น ก็มีเยอะแยะหลายหลายเลยค่ะ แต่เครื่องดื่มมีให้เลือกน้อยค่ะ ก็คือ มีแค่ชาเขียว ชาอู่หลง ชานม น้ำเปล่า และก็น้ำอัดลมเท่านั้นเอง
บรรยากาศภายในร้าน :: ไม่ค่อยพลุกพล่าน ไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่ ไม่เหมือนตามร้าน Shabushi , Sukishi หรือ HotPot อ่ะค่ะ อาจจะเพราะด้วยราคาที่สูงกว่า
ความสะอาดของจานชาม โต๊ะ ที่นั่ง :: สะอาดดีค่ะ ไม่มีรอยคราบมัน ๆ บนภาชนะ บนโต๊ะ ที่แก้วน้ำ ไม่เห็นหนูวิ่ง ไม่เห็นแมลงสาบ พนักงานก็แต่งกายสะอาดดีค่ะ
มารยาทและการบริการของพนักงาน :: ดีมากค่ะ เป็นกันเอง ยิ้มแย้มแจ่มใสทุกคน ไม่มีหน้าบึ้งเลย แล้วก็มีใจที่พร้อมบริการมาก อยากได้น้ำจิ้มอะไร เครื่องดื่มยังไง ถ้าเราไม่สะดวก น้องเค้าใช้เวลาแป๊บเดียวในการจัดหามาให้เราเลยอ่ะค่ะ
ความคุ้มค่า :: อืมมม ...ม พิมว่าถ้าในราคา 399- ไม่ค่อยคุ้มอ่ะค่ะ
จะกลับไปกินอีกไหม :: คงไม่อ่ะค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันไม่ชอบยังไงก็ไม่รู้ >_<"
แถมอีกนิด สำหรับข้อควรระวังมาก ... อย่าเอาเนื้อหมู เนื้อวัวสำหรับชาบูไปย่างบนตะแกรงย่างเชียวนะคะ เพราะว่าเนื้อสำหรับชาบูจะมีไขมันค่อนข้างเยอะ และก็ชิ้นบางมาก ทีนี้พอเอาไปย่าง โอกาสที่น้ำมันจะตกลงไปบนถ่านก็เยอะ เลยทำให้เกิดไฟลุกได้ง่าย และพอไฟลุกมากๆ ก็เกินควันเยอะค่ะ แล้วด้วยความที่เค้าสไล์ดเนื้อจนบางมาก (เนื้อชาบู จะบางเป็นเรื่องปกติ) พอเราจะใช้ตะเกียบคีบออกด้วยความรีบ เนื้อมันก็จะขาดง่ายเป็นชิ้นเล็ก ๆ และจะมีพวกเศษมันติดอยูบนตะแกรง ยิ่งทำให้ควันเยอะ ไฟลุกเข้าไปใหญ่ .... จนทำให้บางทีไม่รู้จะทำอะไรถูกดีเลยค่ะ เพราะงั้นหากเพื่อน ๆ จะไปกิน ต้องระวังตรงนี้ไว้นิดนะคะ