หลายวันก่อนตอนสัก 4 โมงเย็น... อยู่ดี ๆ คุณสามีที่นั่งทำงานอยู่หน้าคอมส์ ก็พูดขึ้นว่าอยากกินชาบู แล้วในขณะที่พิมกำลังงง ๆ ว่า มาอยากกินอะไรกันตอนนี้ คุณสามีก็ลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าไปอาบน้ำและก็แต่งตัวเตรียมพร้อมไปกินแล้วอ่ะค่ะ >_<"
...... สำหรับ Hot Pot Inter Buffet ที่พิมกำลังจะพาเพื่อน ๆ ทุกคนไปกินกันในวันนี้ จะว่าไปก็เป็นร้านที่ออกแนวเดียวกับชาบูชิ และ ซูกิชินะคะ คือ เป็นร้านที่มีหม้อต้ม (ชาบู ชาบู) ให้เรา มีซูชิ มีเทปันยากิ มีติ่มซำเล็กน้อย มีอาหารพร้อมทาน 6-7 อย่าง มีไอศกรีม มีขนมหวานทั้งน้ำแข็งใส มูสช๊อคโกแลต และก็มีเครื่องดื่มหลากหลายเกือบสิบอย่างอ่ะค่ะ .... ซึ่งที่สาขาอื่นเป็นยังไง พิมไม่รู้ เพราะไม่เคยไปใช้ แต่ว่าสาขาที่พิมไปประจำ (บิ๊กซีลาดพร้าว) ในเรื่องของคุณภาพอาหาร รสชาติอาหาร การบริการ มารยาทพนักงาน ความสะอาด โดยรวมถือว่าพอใช้ได้อ่ะค่ะ
ว่าแล้วเพื่อไม่ให้เสียเวลา เดินเข้าร้านหาโต๊ะนั่งกันเลยค่ะ
สำหรับโต๊ะที่พิมเลือกนั่งวันนี้ เป็นโต๊ะที่ติดกระจก และมีแสงสว่างเยอะหน่อย (จะได้สะดวกต่อการถ่ายรูป) ซึ่งก็คือโต๊ะด้านในสุดของภาพด้านบนอ่ะค่ะ ^^
แต่เมื่อพิมไปถึงที่โต๊ะ ..... น้องพนักงานเค้ายังเก็บโต๊ะนี้ไม่เสร็จเลยค่า (พอดีคนที่กินก่อนหน้านี้ เพิ่งลุกไป) ก็เลยต้องรอกันหน่อยอ่ะ .... ระหว่างรอ ก็อ่านแผ่นกระดาษที่ไว้รองจานไปพลาง ๆ ให้ความรู้ดีอ่ะค่ะ
น้องพนักงานเค้าใช้เวลาอยู่แป๊บนึง ไม่เกิน 2 นาที ก็จัดการเก็บโต๊ะ และก็เอาถ้วยชามช้อนชุดใหม่สำหรับพวกเรามาวางไว้อย่างเรียบร้อยค่ะ ..... พวกเราก็เลยจัดการวางสัมภาระข้าวของ และก็เตรียมเดินไปตักอาหาร กดเครื่องดื่มที่ไลน์อาหารค่ะ
...... ซึ่งสำหรับไลน์อาหารของที่ร้านนี้เนี่ย เค้าจะแบ่งคร่าว ๆ (จริง ๆ พิมแบ่งเองแหละ) เป็น 5 ไลน์นะคะ ก็คือ
- ไลน์ของสด .. ก็จะมีพวกเนื้อสัตว์ ลูกชิ้น ผักสด น้ำจิ้ม แล้วก็เส้นแบบต่าง ๆ
- ไลน์เครื่องอื่ม .. ก็จะมีเครื่องดื่มจำพวกน้ำอัดลม พันซ์ ชามะนาว น้ำเปล่า เก๊กฮวย
- ไลน์อาหารพร้อมกิน .. ก็จะมีติ่มซำ ข้าวผัดแฮม ผัดยากิโซบะ เกี๊ยวซ่า ซาลาเปาทอดไส้หวาน หมูอบพริกไทยดำ ไก่คาราเกะ กุ้งเทมปุระ
- ไลน์ซูชิ สลัดและขนมหวาน .. ก็จะมีผักสลัดต่าง ๆ น้ำสลัด 2 แบบ (มั้งค่ะ ไม่แน่ใจอ่ะ) มีมูสช๊อคโกแลต มูสสตรอฯ มูสส้ม มีซูชิ และก็มีขนมหวานจำพวกน้ำแข็งใสอ่ะค่ะ
- ตู้ไอศกรีม .. ก็จะเป็นไอศกรีมสารพัดรสของเนสเล่ท์อ่ะค่ะ
ซึ่งด้วยความที่พิมมาร้านนี้บ่อยพอประมาณ และกินมาแทบทุกอย่างที่อยู่ในร้านนี้แล้ว (ยกเว้นสลัด กับไอศกรีม) ก็เลยพอจะรู้อันไหนถูกปากหรือไม่ถูกปากตัวเอง มาคราวนี้ก็เลยไม่เสียเวลาเดินเลือกค่ะ
สำหรับจานแรกที่พิมตักมาก็คือขนมจีบปู 2 กุ้ง 2 และก็ฮะเก๋า 2 ค่ะ ..... รสชาติโดยรวมใช้ได้ (ไม่รู้ยี่ห้ออะไร) แต่แอบแข็งไปนิดนึง เหมือนเพิ่งเอาออกจากช่องแข็งมานึ่ง นี่ถ้าได้นึ่งนานกว่านี้อีกสัก 2-3 นาที คงจะอร่อยกว่านี้ค่ะ
จานที่สอง (คุณสามีตัก) เป็นบรรดาซูชิรวมหน้าทั้งหลายแหล่ รสชาติและคุณภาพอาหารดีกว่าที่ไปกินที่ห้องอาหารจตุจักร รร.โซฟิเทล เซนทารา แกรนด์ วันก่อนมากค่ะ เสียแต่เค้าปรุงรสข้าวเปรี้ยวไปนิดนึง
จานที่สาม ... ก็ของคุณสามีอีกนั่นแหละ เป็นผัดยากิโซบะ กับเกี๊ยวซ่า และก็ไก่คาราเกะค่ะ .... สำหรับผัดยากิโซบะ ถือว่าอร่อยค่ะ มากินทุกครั้ง ก็อร่อย รสชาติใช้ได้ทุกครั้ง แต่เกี๊ยวซ่าวันนี้แอบแห้งแข็งไปหน่อย ส่วนไก่คาราเกะเค็มมากๆ ค่ะ (แต่วันอื่นก่อนหน้านี้ ไม่เค็มนะคะ)
ส่วนจานที่สี่ เริ่มเป็นของสดแล้วค่ะ จานนี้คุณสามีตักมา ก็จะมีของสดอย่างที่เขียนบอกไวในภาพอ่ะนะคะ ..... (ไส้กรอกปลาอร่อยค่ะ เกี๊ยวปลาก็นุ่มดี ไม่กระด้าง ส่วนลูกชิ้นก็เวิร์คมอร์กว่าลูกชิ้นฮั่งxx ค่ะ)
ป.ล. ของสดหรืออาหารบางอย่างที่มีในโบชัวร์ ก็ไม่มีอยู่บนไลน์นะคะ เช่น เบคอน , ซูชิบางอย่าง ..... เพราะงั้นใครอยากกิน ก็ให้ถามหรือรีเควสเอากับพนักงานได้เลยค่ะ แล้วเดี๋ยวเค้าจะจัดมาให้ (จานเบ้อเร่อ)
จานที่ห้า ก็ของสดอีกล่ะค่ะ แต่จานนี้พิมเป็นคนตักเองอ่ะ ไม่เน้นอะไร เอามาอย่างละชิ้นสองชิ้นสามชิ้น (ตามขนาดชิ้น) เพราะกลัวกินไม่หมดค่ะ ......... (เต้าหู้เห็ดหอม กับลูกชิ้นกุ้งจักรพรรดิ์อร่อยดีค่ะ แต่ลูกชิ้นกุ้งแอบแข็งไปหน่อย)
ส่วนจานนี้ จานที่ 6 ก็ของสดอีกเช่นกัน พิมเป็นคนตัก ^^" เน้นสาหร่ายวากาเมะ กับตับหมูค่ะ เพราะว่าชอบเป็นพิเศษ ส่วนอย่างอื่นก็หยิบมาอย่างละชิ้นสองชิ้นเหมือนเดิม
จานที่ 7 เป็นเนื้อวัวสไลด์ จำไม่ได้แหละค่ะว่าพิมหรือคุณสามีหยิบมา แต่พิมว่าเนื้อมันกระด้างไปหน่อยค่ะ เอามาลวก จิ้มน้ำจิ้มแล้ว ไม่ค่อยอร่อยเลย >_<"
ส่วนนี่ก็เป็นผักนะคะ .... คือจริง ๆ พิมเป็นคนกินผักเยอะค่ะ แต่ว่าถ้ามากินอาหารประเภทนี้ตามร้านพวกนี้ พิมจะเลือกกินผักแค่บางอย่างเท่านั้น (ส่วนใหญ่เป็นผักที่ชอบมากๆ) อย่างเห็ดหูหนู คึ่นช่าย ต้นหอมอ่ะค่ะ ส่วนพวกผักกาดขาว กะหล่ำ ผักบุ้งจีน อันนี้เก็บไว้ตอนทำกินที่บ้านค่ะ ^^
และนี่ก็เป็นน้ำจิ้มที่พิมตักมาค่ะ จริง ๆ น้ำจิ้มของที่นี่เค้ามี 3 แบบนะคะ ก็คือ น้ำจิ้มสุกกี้ น้ำจิ้มชาบูขาว มีส่วนผสมของงาและถั่ว พิมเลยเรียกน้ำจิ้มงา และก็น้ำจิ้มชาบูดำ ที่น่าจะเรียกว่า พอนสึ อ่ะค่ะ .... แต่ว่าพิมไม่ค่อยชอบน้ำจิ้มชาบูดำสักเท่าไหร่ ชอบแบบงาขาว ใส่หัวไชเท้าขูดฝอยกับต้นหอมนิดนึง (เอามากินกับหมูสไลด์ เนื้อสไลด์บาง ๆ ลวกพอสุก) และก็แบบสุกี้ ใส่พริก+กระเทียมเยอะ ๆ มากกว่าจ้า
ส่วนนี่ก็น้ำที่พิมกดมานะคะ ในภาพก็จะมีเก๊กฮวย โค๊ก ชามะนาว เก๊กฮวย และก็พันซ์ค่ะ (ทยอยกดมาทีละแก้วนะคะ ไม่ได้กดทั้งหมดนี่รวดเดียว ^^")
เมื่อตักของสด และของพร้อมกินมาเรียบร้อยแล้ว ... เราก็มาลุยกันเลยดีกว่าค่า แบบว่าเริ่มหิวแหละ
อ้อๆ .. สำหรับน้ำซุปในหม้อวันนี้ก็ขอเป็น 2 น้ำซุปนะคะ คือ ซุปใส (ของคุณสามี) กับซุปมิโซะ (ของพิมเองค่ะ)
ว่าแล้วเมื่อน้ำซุปเดือด ..... ก็จัดการใส่ของสด พวกลูกชิ้น เกี๊ยว เต้าหู้สารพัด และก็เนื้อสัตว์ที่สุกยาก รวมไปถึงผักที่อยากให้สุกแบบนิ่ม ๆ ลงไปเลยจ้า
ว่าแต่ระหว่าง ... รอเนื้อสัตว์สุก แอบมีเหตุการณ์ให้คุณสามีพิมเค้าเซ็งอยู่เรื่องนึงอ่ะค่ะ ก็คือ ... วันนี้คุณสามีเค้าตั้งใจมากินซาบะซูชิค่ะ ก็เลยสั่งซาบะซูชิกับพนักงานคนที่ 1 ไป ปรากฎว่าหายไปนานเลย ก็ยังไม่ได้ซาบะซูชิมา พิมก็เลยไปทวงถามให้ค่ะว่าตกลงซาบะซูชิที่สั่งไปนี่ พนักงานลืมหรือยัง ปรากฎว่าสักพักมีพนักงานผู้ชาย (ติดป้ายหน้าอกว่าเป็นผู้จัดการ) บอกว่าวันนี้ไม่มีซาบะ เพราะว่าของไม่เข้า ... พอคุณสามีได้ฟังก็แอบเซ็งประมาณนึงเลยอ่ะค่ะ แบบว่าตั้งใจมากิน ทำไมไม่มีอ่ะ แล้วคุณสามีเลยบอกว่างั้นเอาแซลมอนซูชิก็ได้
สักพักพนักงานคนที่ 3 ก็เอาแซลมอนซูชิมาเสริฟค่ะ (ข้าวเยอะ หนา เนื้อปลาบางมาก) คุณสามีก็กิน ๆ แถมกินไปบ่นไปเพราะว่าข้าวซูชิเปรี้ยวมาก แต่ก็พยายามกินให้หมดค่ะ
แต่หลังจากกินแซลมอนซูชิไปได้ไม่นาน อยู่ดี ๆ น้องพนักงานคนเดิม (คนที่ 3) ก็เอาซาบะซูชิมาให้พวกเราประมาณ 9 ชิ้นค่ะ คุณสามีพิมก็มองพิมแบบงง ๆ พิมก็มองหน้าน้องพนักงานแบบงง ๆ ...... แล้วน้องพนักงานเค้าก็บอกว่า ซาบะซูชิที่สั่งได้แล้วค่ะ ........ พิมก็เลยถามกลับไปว่า ..... ไหนเมื่อกี้ผู้จัดการร้านบอกว่าวันนี้ไม่มีปลาซาบะสักตัวเลยไงค่ะ พี่เลยต้องสั่งแซลมอนแทน แล้วทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมีปลาซะบาะมาทำซูชิจานนี้ได้ล่ะค่ะ ..... น้องพนักงานเค้าก็อึ้ง ๆ ค่ะ แล้วสักแป๊บเค้าก็พูดเบา ๆ ว่า ซาบะมีค่ะ แต่ว่าเมื่อกี้มันยังเป็นน้ำแข็งอยู่ เลยบอกว่าไม่มี
คือจะว่าไงดีล่ะ พิมฟังที่น้องพนักงานเค้าพูดแล้วไม่เข้าใจค่ะ พิมเลยถามน้องพนักงานเค้ากลับไปว่า "คำว่าไม่มี ปลาซาบะไม่เข้า กับคำว่าซาบะมี แต่ยังเป็นน้ำแข็งอยู่" มันคนละความหมายกันเลยนะคะ ......... แล้วตกลงมันหมายความว่ายังไง น้องพนักงานเค้าก็ไม่รู้อะไรค่ะ ได้แต่ก้มหน้า เงียบ แล้วสักพักก็เดินจากไปพร้อมกับถาดซาบะซูชิ >_<"
คุณสามีที่เดิมเซ็งอยู่แล้ว ก็เลยเซ็งหนักกว่าเดิมอีกค่ะ แถมนะ .... แซลมอนซูชิ เนื้อแซลมอนแข็งมาก อีกทั้งมีก้างและเกล็ดปลาติดมาอีกด้วยค่ะ ...... เรียกว่า วันนี้เนี่ยสำหรับซูชิ ติดลบเลยค่ะ แย่มากๆ อ่ะ
แต่ก็นะ .... สำหรับพิมที่ไม่ค่อยชอบกินซูชิ ไม่ค่อยชอบกินปลาดิบอยู่แล้ว ก็เลยไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ค่ะ >_<" คือ เข้าใจในความหงุดหงิดของคุณสามีอ่ะนะคะ แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร เพราะพิมไม่ได้เป็นคนที่อยากกิน (ขอโต๊ดดนะคุณสามีที่รักอ่ะ) พิมก็เลยยังคงนั่งกินอย่างอื่นไปเรื่อยเปื่อย ระหว่างนั้นก็แว๊บ ๆ ดูบรรยากาศอื่นๆ ภายในร้านด้วยอ่ะค่ะ
พอหมดอาหารชุดแรกที่พิมกับคุณสามีตักมา ..... คุณสามีก็ไม่นึกอยากกินอะไรอีกค่ะ (ก็ผิดหวังจากซูชินี่เน๊าะ) ส่วนพิมยังไม่อิ่มค่ะ เพราะงั้นก็ขอต่ออีกหน่อย ด้วยการไปตัก 2-3 จานข้างล่างนี่มา ซึ่งในจานในภาพด้านล่างเนี่ย ซาลาเปาไส้หวานอร่อยมากค่ะ ส่วนหมูอบยังแข็งไปหน่อย แต่ดีกว่าทุกทีที่ผ่านมา
ส่วนในจานนี้ ... ก็ทั่ว ๆ ไปค่ะ ไม่มีอะไรอร่อยเป็นพิเศษจนอยากจะแนะนำ >_<" (แต่ที่ตักมาเพราะอยากกินอีก)
แล้วพิมก็ต้ม ๆ ต่อไปค่ะ ^^
ระหว่างต้ม ๆ ... นึกได้ว่า วันนี้ยังไม่ได้กินเทปันยากินเลยนี่หว่า ก็เลยสั่งเสต๊กซาบะไป 4 (กินคนเดียว) กับเสต๊กหมูของคุณสามีอีก 1 ค่ะ ซึ่งกว่าจะมาได้ ก็นานมากก.กก.ก.ก.ก.ก.ก.ก. นานจนลืมว่าสั่งไปแล้วค่ะ แถมพอเอามาเสริฟก็ต้องผิดหวังอีกระลอก เพราะว่าเสต๊กซาบะ ทั้งชิ้นเล็ก เนื้อแข็งและก็ก้างเยอะมาก เยอะจนบางชิ้นเนื้อน้อยกว่าก้างอ่ะค่ะ .... แต่ก็นะ สั่งมาแล้ว ต้องรับผิดชอบให้หมดค่ะ (แต่ซอส ยังรสชาติดีเหมือนเดิม)
สุดท้ายเมื่อกินของคาวเสร็จแล้ว ก็ขอตบท้ายด้วยของหวานหน่อยล่ะค่ะ ..... ซึ่งของหวานของ Hot Pot ที่พิมชอบมากๆ ถึงมากที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นมูสช๊อคโกแลตล่ะค่ะ พิมกินได้ประมาณ 4-6 ถ้วยเลยอ่ะ ^^ (จริง ๆ เค้ายังมีมูสส้ม กะมูสสตรอฯ ด้วยนะคะ แต่มันออกเปรี้ยว ๆ พิมไม่ค่อยชอบอ่ะ)
และก่อนจะปิดบัญชี .... พิมก็ขอจบท้ายด้วยน้ำแข็งใสอีกสักถ้วยนึงค่ะ ซึ่งในถ้วยนี้ก็มีแต่ของที่พิมชอบ ๆ ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นเม็ดบัว ข้าวโพด สับปะรด และก็มันเชื่อมค่ะ .... ก็ตักมาอย่างละ 1 ชต. ได้ แต่ว่าเน้นน้ำแข็งกะนมข้นหวานค่ะ อันนี้ชอบมากๆ ฮี่ๆ
สุดท้ายแล้ว ........ เมื่อเรากินทุกอย่างเรียบร้อย ก่อนจะไปเช็คบิล โต๊ะเราก็มีสภาพเป็นแบบนี้จ้า
และก่อนจะเดินออกจากบ้าน ก็แว๊บเอาบิลไปจ่ายค่าเสียหายซะหน่อยที่เคาเตอร์ และก็ไม่ลืมที่จะบอกกับผู้จัดการร้าน + พนักงานร้านเค้าถึงสิ่งที่เรารู้สึกในวันนี้ แต่เค้าก็ได้เพียงครับ ๆ ค่ะ ๆ .... ก็ไม่รู้ว่าเค้าจะเอาไปปรับปรุงไหมนะคะ ส่วนตัวพิมชอบร้านนี้พอประมาณค่ะ ถือได้ว่าเป็นอีกร้านนึงที่มาบ่อยที่สุดเลย (แม้จะแค่ราว 2 เดือนครั้ง) แต่ว่าหากเค้าไม่ปรับปรุง พิมกับคุณสามีก็คงจะโบกมือบ๊ายบายล่ะค่ะ
แล้วเจอกันใหม่ ..... ร้านถัดไปนะคะ ^^
:: สรุปจากความรู้สึกของพิมและคุณสามี ::
รสชาติของอาหารโดยรวม :: 7.5 เต็ม 10
คุณภาพของเนื้อสัตว์ ผัก และอื่นๆ ต่อราคา :: 7.5 เต็ม 10
บรรยากาศ (สาขาบิ๊กซีลาดพร้าว) :: ไปตอนกลางวันไม่ค่อยวุ่นวาย แต่ถ้าไปช่วงเย็นค่ำ คนเยอะเหมือนกัน แต่ก็ไม่วุ่นวายเหมือนชาบูชิ ซูกิชิ
ควาหลากหลายของอาหาร :: 8 เต็ม 10 (รายละเอียดด้านบนๆ)
ความสะอาดของจานชาม โต๊ะ ที่นั่ง :: สะอาดพอประมาณ แต่ไม่สะอาดมาก เคยเจอจานชามที่ไว้ให้ลูกค้าตักอาหารใส่ มีคราบเลอะเทอะ อยู่ 2 ครั้งค่ะ (จากที่เคยไปประมาณ 10 กว่าครั้ง)
มารยาทและการบริการของพนักงาน :: บางคนก็ยิ้มแย้มดี นอบน้อมดี มารยาทโดยรวมดี แต่บางคนก็หน้าบึ้ง ๆ หรือไม่ก็หน้าเฉย ๆ (ส่วนใหญ่เป็นแบบอันหลัง) / สั่งอาหารไป นานมากกว่าจะได้แต่ละอย่าง แต่พอได้มาก็ให้มาอย่างเยอะจนเกินจะกิน
ราคาสุทธิ :: 290 บาทต่อคน
ความคุ้มค่า :: พิมให้ 8 เต็ม 10
จะกลับไปกินอีกไหม :: กลับไปอ่ะค่ะ แต่นาน ๆ คงจะไปที (พิมชอบสาขาที่บิ๊กซีรามฯ มากกว่า แต่ว่ามันไกลบ้านค่ะ)